เวลาจึงลากกระเป๋าคนละใบออกจากโรงแรมไปบริษัทที่จัดทัวร์เพื่อขึ้นรถบัสเดินทางต่อไปยังด่านสะเดา นี่เป็นครั้งแรกของเราเลยนะที่เดินทางออกนอกประเทศ แอบตื่นเต้นอยู่
พอเข้าไปเค้าก็จะขอดูพลาสปอร์ต แล้วปั้มตราประทับ ความจริงก็ง่ายกว่าที่คิดนะ จากด่านสะเดาประเทศไทย เราก็ขึ้นรถไปต่อที่ด่านประเทศมาเลเซีย ลักษณะคล้ายกับของไทย แต่ที่ต้องรู้คือเค้ามีสแกนลายนิ้วมือ โดยใช้นิ้วชี้ทั้งสองข้างด้วย แต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกันถ้าเป็นสิงคโปร์จะใช้นิ้วโป้งทั้งสองข้าง อย่าคาดหวังว่าห้องน้ำที่นี่จะสะอาด เฉพาะห้องน้ำตามต่างจังหวัด สังเกตว่าถ้าที่ไหนมีที่เป่าลมก็เตรียมตัวพกยาดมไปด้วยได้เลย แล้วก็นั่งรถยาวไปเพื่อไป PHUTA JAYA เมืองราชการของมาเลเซีย
ระหว่างทางไกด์ก็ขึ้นมาแนะนำที่เที่ยวของมาเลเซีย ซึ่งเป็นคนสยาม ในประเทศมาเลเซีย เค้าเล่าว่าสมัยรัชกาลที่ ๕ ที่อังกฤษยกทัพมาที่อ่าวได้ทำการแบ่งเขตดินแดนของมาเลเซียกับประเทศไทย ทำให้มีชาวสยามบางส่วนต้องอยู่ในประเทศมาเลเซีย ชาวสยามที่นี่มีความคล้ายคนไทยพูดไทยได้ พูดใต้ได้ มาลายู อังกฤษก็ได้ ยังนับถือพุทธ เมื่อมีการบวชก็จะมาบวชกันที่นครศรีธรรมราช ส่วนใหญ่ปลูกข้าว โดยอาศัยอยู่ในรัฐ(Kedah หรือไทรบุรี) ที่ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศเพราะสามารถปลูกข้าวได้ดี จากนั้นเราก็ไปกินข้าวที่ร้านอาหารจีนแห่งหนึ่ง อาหารก็พอกินได้ ไม่ได้แย่อะไรมาก แต่ห้องน้ำน้อยไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้เหม็นอะไร จากนั้นก็ไปแวะที่ PHUTA JAYA เค้าว่าเป็นเมืองใหม่ที่รวมศูนย์ราชการเกือบทั้งหมดของประเทศ และมีมัสยิดสีชมพูเด่นเป็นสง่าอยู่ที่ริมแม่น้ำ
อาหารที่นี่แปลกสำหรับเราอ่ะ หากาแฟสดยาก ที่ใกล้เคียงก็เนสกาแฟ ราคาก็ 3 รูปี ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 24 บาท เห็นราคาแล้วคิดถึงเมืองไทยเลยอ่ะ จากนั้นก็เดินทางไปที่เมืองยะโฮร์ บาลู เมืองทางตอนใต้ของประเทศมาเลเซีย เข้าพักที่โรงแรม V8 โรงแรมไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็ถือว่าสะอาด ที่โรงแรมนี้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างดีผ่านคีร์การ์ด จะขึ้นลิฟย์ หรือเข้าห้องก็ต้องมีคีย์การ์ด เข้าห้องเราอาจจะคุนเพราะแค่แตะก็หมุนลุกบิดแล้วเสียบคีย์การ์ดก็สามารถใช้ไฟเปิดห้องได้ ใช่ขึ้นลิฟย์ก็คล้ายกันต้องแตะบัตรมันก็จะขึ้นชั้นมาให้เราเลย